
เป็นเรื่อง ที่คิดไม่ตก สำหรับคนในวัยทำงาน
ที่ไม่ว่าจะทำงานหาเงินมาเท่าไหร่ก็ไม่เคยที่จะพอใช้จ่าย
บางคนอย่าว่าแต่เงินเก็บเลย ขอแค่ในแต่ละเดือน
ให้พอกิน พอใช้จ่ายตลอดเดือนก็ว่ายากแล้ว
และยิ่งสมัยนี้ ที่ข้าวของแพงขึ้น ทุกอย่างค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
แต่รายได้ก็ยังเท่าเดิมก็เท่ากับเงินเดือนที่มี
นั้นเหมือนลดลงไปด้วยแต่ถึงแม้ว่าเราจะมีภาระค่า
ใช้จ่ายเข้ามาทุกทาง ก็ใช่ว่ารายจ่ายทุกอย่าง
จะสำคัญและจำเป็นเสมอไป เพราะเราก็ยังพอปรับเปลี่ยน
ค่าใช้จ่ายบางอย่างที่อาจจะไม่จำเป็นลงได้บ้าง
เช่น ค่าบัตรเครดิตที่ใช้รูดซื้อของที่อยากได้ โดยผ่อนชำระขั้น
ต่ำค่าโทรศัพท์หรืออินเตอร์เน็ต
ในแพ็คเกจสูงๆ แต่ใช้ไม่คุ้มกับที่จ่ายไป หรือแม้แต่ค่ากระเป๋า
รองเท้า เสื้อผ้า ที่ซื้อเปลี่ยนใหม่ทุกเดือน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้จำเป็นในชีวิตประจำวัน
เราอาจจะเปลี่ยนจากการใช้บัตรเครดิตผ่อนของ
เป็นการเก็บเงินก้อนแล้วค่อยไปซื้อ เพราะถึงเวลา
นั้นเราอาจจะรู้แล้วว่ามันไม่ได้จำเป็น
แต่ถ้าเก็บเงินครบจำนวนแล้ว ยังต้องซื้อก็ซื้อได้
เลยโดยที่ไม่ต้องมานั่งผ่อนชำระขั้นต่ำ
ให้เสียดอกเบี้ยแพงๆ หลายคน ต้องติดอยู่ในกับดัก
ของหนี้บัตรเครดิตแบบที่ออกมาไม่ได้สักที
ทำงานมาตั้งหลายปี มีรายได้มากกว่าตอนเริ่มทำงาน แต่ก็ยังไม่พอใช้อยู่ดี
เพราะเงินเดือนออกเมื่อไหร่ ก็ต้องหักไปจ่ายหนี้ จนหมดลองงดปาร์ตี้สังสรรค์ลง
งดช้อปปิ้งสักเดือน อาจจะพอเหลือเงินให้เก็บขึ้นมาบ้าง เพราะเราไปให้ความสำคัญผิดที่
คนเรามักจะสนใ จคนอื่นว่าจะมองเรายังไง
แต่งตัวแบบไหน แม้จะต้องลำบากอดข้าว
ไปซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับราคาแพงมาใส่ก็ยอม
แต่กลับต้องมานั่งทุกข์กับการใช้หนี้ในแต่ละเดือน
ฉะนั้น เราต้องรีบเปลี่ยนความคิด และพฤติกรรมของเรา
โดยด่วน หันมาให้ความสำคัญกับตัวเอง
อย่าไปสนใจว่าคนอื่นจะมองเรายังไง ใช้ชีวิตในแบบของ
เราให้มีความสุขและไม่เหนื่อย
กับการเป็นหนี้ก็พอ ถ้าอยากจะซื้ออะไร ก็ควรซื้อเพราะเรา
อยากได้มันจริงๆ ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้น
ไม่ใช่เพราะคนอื่นบอกต้องมีหรือเพื่อทำให้คนอื่นมอง
แบบนั้นเราคงต้องสร้างหนี้อยู่เรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น